Homenet Thailand Brand กับการตลาดออนไลน์

ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีการสื่อสาร (IT) เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คนไทยจึงนิยมใช้โทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ประมาณ 3 ปีติดต่อกัน ระหว่างปี ค.ศ. 2020-2022 ทำให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทาง และมีการรักษาระยะห่างทางสังคม การค้าขายออนไลน์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตของคนไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง

กลุ่มผู้ทำการผลิตที่บ้านทั้งผู้ผลิตเองขายเองและผู้รับงานมาทำที่บ้าน ซึ่งเป็นสมาชิกของ Homenet Thailand Association (HNTA) ประมาณ 5,000 คน ในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 70 เป็นผู้หญิง และ มีไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี หรืออยู่ในเกณฑ์ผู้สูงอายุ สมาชิกเหล่านี้แม้นจะผ่านการอบรมการทำการตลาดออนไลน์ จาก HNTA แต่ด้วยข้อจำกัดของอายุ ความรู้ ภาษา และอุปกรณ์ที่ยังล้าสมัยก็ทำให้การทำการตลาดออนไลน์ด้วยตนเองมีข้อจำกัดมากมาย ไม่สามารถแข่งขันกับกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ที่มีอายุน้อยกว่า และมีปัจจัยเสริมทั้งความรู้ ภาษา และอุปกรณ์ที่ทันสมัยได้ 

ด้วยปัจจัยบวกอันเกิดจากการที่กลุ่มผู้ผลิตที่เป็นสมาชิกของ HNTA ประมาณ 1,000 คนจาก 25 กลุ่ม ได้มาร่วมมือกันในการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคม ชื่อ Homenet Thailand Brand (HNTB) ขึ้นในปี 2017 เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสมาชิก ซึ่งจะส่งผลให้สมาชิกมีรายได้ที่แน่นอนและมีอาชีพที่มั่นคง  

HNTB ดำเนินงานโดยการยึดหลักการของเศรษฐกิจสังคมสมานฉันทน์ (Social Solidarity Economy) ที่เน้นการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างสมาชิกด้วยกันเอง  มีความเป็นเจ้าของและมีการบริหารจัดการร่วมกัน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการผลิตที่คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป  HNTB มีการลงหุ้นร่วมกันของสมาชิก มีตัวแทนที่สมาชิกคัดเลือกมาบริหารจัดการกิจการ และทำการตลาดร่วมกัน

ด้วยความร่วมมือกันของกลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคม HNTB ทำให้สมาชิกสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของการทำการตลาดออนไลน์แบบปัจเจก มาทำการตลาดออนไลน์แบบกลุ่มร่วมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดำเนินงานและประสานงานร่วมกับกลุ่มสมาชิกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2021 

ในปี 2022 การตลาดออนไลน์ของ HNTB มีมูลค่าประมาณร้อยละ 20 จากยอดขายทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 80 จะเป็นการขายผ่านร้านค้าย่อยในงานกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทาง HNTA และเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมจัดขึ้น   ปัจจุบัน HNTB ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจัดจ้างเจ้าหน้าที่ จาก Fondation Chanel มาช่วยทำการตลาดออนไลน์ผ่าน 5 platform คือ Facebook, Instagram, Line Official, Mail-Group, Website ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

Facebook 

HNTB มีการใช้ Facebook เพจที่ชื่อว่า HomeNetThailandBrand โดยแพลตฟอร์มนี้จะมีวัตถุประสงค์เพื่อการประชาสัมพันธ์ข่าวสารเรื่องราวของสมาชิกและจำหน่ายสินค้า

ณ 28 กุมภาพันธ์ 2023 มีผู้กดถูกใจ จำนวน 1,230 คน และมีผู้ติดตามจำนวน 1,302 คน ในแพลตฟอร์มนี้จะมีการโพสต์อย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีการใช้ Market Place Facebook ที่ชื่อว่า HOME CARFT by HomeNet Thailand เพื่อให้สมาชิกได้โพสต์ขายสินค้าและบริการต่าง ๆ โดยในกลุ่มนี้มีสมาชิกทั้งหมด 269 คน จากการดำเนินงานในปี 2021-2022 

พบว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึงง่ายโดยเฉพาะลูกค้ารายบุคคล แต่มีข้อจำกัดเนื่องจากลูกค้ามักจะซื้อสินค้าในปริมาณที่น้อยทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้เพียงร้อยละ 1 จากยอดขายผ่านการตลาดออนไลน์ทั้งหมด แต่ต้องใช้เวลาและการจัดการของค่อนสูง HNTB คาดว่าจะต้องพัฒนาให้ช่องทางการตลาดผ่าน Facebook นี้ เข้าถึงกลุ่มผู้ซี้อประเภทองค์กรมากยิ่งขึ้น

Instagram

แพลตฟอร์มอินสตาแกรมเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ทาง HNTB ใช้เพื่อจำหน่ายสินค้าและประชาสัมพันธ์ข่าวสาร โดยใช้ชื่อว่า homenet.th.brand เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ HNTB เพิ่งพัฒนาเมื่อต้นปี 2022  ปัจจุบันจึงยังมีผู้ติดตามเพียง 37 คน  HNTB พบว่าช่องทางนี้ใช้ในการประชาสัมพันธ์ร้านค้าและสินค้ามากกว่าการจำหน่ายสินค้า

Website

สำหรับเว็บไซต์ทางโฮมเน็ตไทยแลนด์แบรนด์ได้ใช้ https://www.homenetthailand.org/products เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มผู้ทำการผลิต แบบเต็มรูปแบบ ลูกค้าสามารถกดซื้อสินค้าได้จากทั่วโลก โดยการพัฒนาเว็บไซต์นี้ได้รับการสนับสนุนจาก Homenet International ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในงาน CSW66 Forum, Virtual Artisan Fair from March 13-25,2022 HNTB พบว่าผู้เข้าใช้งานในเว็บไซต์ส่วนใหญ่มักจะเข้ามาที่หน้าหลักเพื่อศึกษางานของ HNTA มากกว่าการเข้าไปยังหน้าสินค้าเพื่อซื้อสินค้า ช่องทางนี้จึงทำหน้าที่เผยแพร่เรื่องราวของกลุ่มผู้ผลิต มากกว่าการขายสินค้า

Mail-Group

HNTB ได้พัฒนากลุ่มเมล homenetthailandbrand@gmail.com ผ่านโปรแกรม MailChimp ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 สมาชิกในกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่ม เพื่อน คนรู้จัก และสมาชิกจากเครือข่ายต่าง ๆที่ HNTA และ Foundation for Labour and Employment Promotion (FLEP) ทำงานด้วยจำนวน 200 คน HNTB จะส่งแคตตาล๊อคสินค้าอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งและอาจมีการส่งเพิ่มตามวันสำคัญต่าง ๆ ซึ่งทางHNTB พบว่ามีการเปิดเพื่อเข้าไปอ่านข้อความที่ส่งไปร้อยละ 31 และมีอัตราการคลิกดูสินค้าผ่านลิงค์ร้อยละ 3 จากจำนวนที่ส่งอีเมลทั้งหมด และผู้ที่เข้ามาดูสินค้าส่วนใหญ่ให้ความสนใจและสั่งซื้อสินค้าในปริมาณมาก ทำให้การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางนี้มีมากถึงร้อยละ 19 ซึ่งถือว่ามากที่สุดของการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ของ HNTB 

Line Official

สำหรับช่องทาง Line Official ถือเป็นช่องทางการตลาดใหม่ของHNTB ที่จัดทำขึ้นในช่วงSeptember 2022 โดยใช้ชื่อ HomeNetThailandBrand เนื่องจากเป็นช่องทางใหม่จึงใช้ในการประชาสัมพันธ์ร้านค้าและสินค้ามากกว่าการจำหน่ายสินค้า โดยมีผู้ติดตามทั้งหมด จำนวน 105 คน แบ่งเป็นผู้ติดตามที่เคลื่อนไหว (Active member) จำนวน 90 คน  และผู้ติดตามที่ไม่เคลื่อนไหว จำนวน 15 คน พบว่าช่องทางนี้ผู้ติดตามส่วนใหญ่ใช้ในการสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับ HNTB มากกว่าการซื้อสินค้า 

เนื่องจาก HNTB มีประสบการณ์ในการทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เพียง ระยะเวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งพบว่านอกเหนือจากผลการขายโดยตรงแล้ว แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มียังช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องราวของ HNTB และกลุ่มผู้ผลิต ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แพลตฟอร์มออนไลน์เหล่านี้ยังจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  ข้อสังเกตและบทเรียนที่ทาง HNTB ได้รับในการทำการตลาดสินค้าออนไลน์ที่ผ่านมา คือ

  1. ศึกษาลักษณะของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อเลือกใช้แพลตฟอร์มให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแพลตฟอร์มนั้น ๆ จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของสินค้าและส่งผลให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เช่น บนอินสตาแกรมจะเน้นไปที่รูปถ่ายมากกว่าการเขียนข้อความ หรือในการอีเมลกลุ่มต้องใส่เนื้อหาข้อความให้ผู้บริโภคอ่านง่าย เข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อรวมถึงสามารถคลิกไปต่อได้ง่ายหากต้องการซื้อสินค้า
  2. เนื่องด้วยแพลตฟอร์มต่าง ๆ มีการใช้อัลกอลิทิ่มที่แตกต่างกัน การโฆษณาเพื่อให้ผู้บริโภคเห็นร้านค้าและสินค้านับเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น
  3. การนำเสนอสินค้าให้ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค ต้องมีการพัฒนา การถ่ายรูปสินค้า การทำวีดิโอนำเสนอสินค้า และการเขียนข้อความ และเรื่องราวเพื่อช่วยนำเสนอสินค้าให้ดูน่าสนใจมากขึ้น  
  4. การเชื่อมโยงกับกระแสสังคมจะส่งผลให้มีผู้บริโภคที่สนใจหันมาให้ความสนใจสินค้ามากขึ้น เช่น ประเด็นโลกรวน (Climate Change) ประเด็นผู้หญิง ประเด็นแรงงานสูงอายุ และงานที่มีคุณค่า เป็นต้น
  5. HNTB ควรจะมีการขยับเข้าไปขายสินค้าในแพลตฟอร์มการตลาดที่มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมากให้ความสนใจ เช่น Lazada หรือ Shopee  ซึ่งจะช่วยให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมากและหลากหลายขึ้น

ช่องทางติดต่อโฮมเนทแบรนด์ https://linktr.ee/homenetthailandbrand

ธฤษณัช พันธ์สวัสดิ์
เมษายน 2566